Sunday, 27 October 2013

Recipe Talk: Pumpkin Swirl Blondie

ใครชอบทานบราวนี่ ก็คงจะรู้จักกับบลอนดี้ดี บลอนดี้ก็คือบราวนี่ที่ไม่ใส่ช็อกโกแลตหรือโกโก้ลงไปในตัวเนื้อเค้กนั้นเอง ใครสนใจก็สามารถอ่านเรื่องบราวนี่และบลอนดี้ ก็คลิ๊กไปอ่าน "บราวนี่ กับ บลอนดี้ (Brownie & Blondie) ความอร่อยของขนมเนื้อแน่น..นุ่มและชุ่มชื้น" ได้เลยค่ะ แต่วันนี้บัวอยากจะนำเสนอสูตร "บลอนดี้ฟักทอง (Pumpkin Swirl Blondies)" ของ Laura Vitale สูตรนี้ทั้งอร่อยและง่ายมาก ระหว่างการอบบลอนดี้นั้น ห้องครัวจะคลุ้งไปด้วยกลิ่นที่ทั้งหวานและอบอุ่น


บัวปรับจำนวนและอัตราส่วนในสูตรนิดหน่อยเพราะบัวอยากจะทำบลอนดี้ออกมาไม่เยอะมาเหมือนในสูตรของ Laura Vitale บัวหารครึ่งอัตราส่วนในสูตรเดิมค่ะ ถ้าพร้อมแล้วมาดูอัตราส่วนส่วนที่บัวปรับกันเลยนะคะ อัตราส่วนบัวปรับให้อยู่ในรูปแบบน้ำหนักแทนที่จะบอกเป็นถ้วยตวง สูตรนี้ทำได้ 6 ชิ้น

สำหรับเนื้อบลอนดี้

  • แป้งอเนกประสงค์ 60 กรัม
  • ผงฟู 1/2 ช้อนชา
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา
  • น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
  • น้ำตาล 28 กรัม
  • เนยจืด (ปล่อยให้อยู่ในอุณหภูมิห้อง) 60 กรัม
  • วานิลลาสกัด 1/2 ช้อนชา
  • ช็อกโกแลตชิพ 88 กรัม

สำหรับฟักทอง
  • ฟักทองบดละเอียด 80 กรัม
  • น้ำตาล 20 กรัม
  • เครื่องเทศพายฟักทอง 1/2 ช้อนชา
สำหรับวิธีทำ ไปดูที่ Pumpkin Swirl Blondies ได้เลยค่ะ Laura Vitale มีคลิปยูทูปบอกวิธีการทำอยู่ในโพสนี้ของเค้าด้วย ทำง่ายและใช้เวลาไม่นานค่ะ เอาไว้ทานเป็นอาหารเช้าหรืออาหารทานเล่นก็ได้ค่ะ 

จนกว่าจะถึงคราวหน้า ขอให้มีความสุขกับการทำอาหารค่ะ <3 <3 <3

* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *

Today I would like to introduce you to Laura Vitale's Pumpkin Swirl Blondies as a part of the Pumpkin Recipe Series. Her recipe is insanely delicious and super easy to bake. I personally guarantee that this recipe will make your kitchen smells divine!


However, instead of white chocolate chips, I used semi-sweet chocolate chips that I usually have in my storage. Also instead of making the whole batch which yields 16 squares, I just ended up dividing everything in half because I would not be able to finish the whole 16 blondie suqares all by myself. The following recipe is half of Laura Vitale's recipe and converted to the metric measurement. If you are ready, here we go.

Make 6 Squares

For the Blondie Base:
  • 60 g All Purpose Flour
  • 1/2 Teaspoon of Baking Powder 
  • 1/8 Teaspoon of Salt
  • 50 g Brown Sugar
  • 28 g Sugar
  • 60 g Unsalted Butter, at room temperature
  • 1/2 Teaspoon of Vanilla Extract
  • 1 Egg
  • 88 g Chocolate Chips
For the Pumpkin Swirl:
  • 80 g Pumpkin Puree
  • 20 g Granulated Sugar
  • 1/2 Teaspoon of Pumpkin Pie Spice
For the instruction, just head to Laura Vitale's Pumpkin Swirl Blondies. She has a video to instruct you on how to bake these blondies. These blondies are perfect for breakfast or afternoon snack. 

Until next time, stay full and stay happy. <3 <3 <3

Saturday, 26 October 2013

Recipe Talk: Pumpkin Overnight Oatmeal

สวัสดีค่ะ บัวกลับมาแล้วพร้อมกับสูตรที่ 3 ในซีรีย์สูตรอาหารจากฟักทอง บัวขอเรียกสูตรนี้ว่า "โอ๊ตมีลฟักทอง" 


สูตรนี้สามารถทำได้ในระยะเวลาอันสั้นและสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าเพื่อทานเป็นอาหารเช้าได้ ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที สูตรนี้เป็นสูตรสำหรับมื้อเดียวและคนเดียวทาน ถ้าเพื่อนๆต้องการทำเพื่อจำนวนคนหรือจำนวนมื้อที่มากกว่าหนึ่งคนหรือหนึ่งมื้อ ก็แค่คูณจำนวนคนหรือมื้อไปในแต่ละส่วนผสม โอ๊ตมีลฟักทองนี้ให้พลังงานแค่ 315 แคลอรี่แต่ทำให้อิ่มไปได้จนเที่ยง น่าสนใจใช่ไหมคะ พร้อมแล้วเรามาดูกันว่าเพื่อนๆต้องใช้อะไรบ้าง



  • โอ๊ตมึล 35 กรัม
  • ฟักทองบดละเอียด 125 กรัม
  • นมถั่วเหลือง (หรือนมชนิดใดก็ได้ที่เพื่อนๆชอบ) 100 มิลลิลิตร
  • แครนเบอร์รี่อบแห้ง 40 กรัม
  • เครื่องเทศพายฟักทอง 1 ช้อนชา
  • รสวานิลลา 1 ช้อนชา



วีธีทำก็ง่ายนิดเดียว เพียงแค่ผสมทุกอย่างเข้าด้วยกันและเก็บไว้ในตู้เย็นข้ามคืน (ในกรณีทำไว้สำหรับทานหลายๆ ก็สามารถเก็บไว้ได้หลายคืน ^___^ ) ตอนเช้าก็เพียงแค่เอาช้อนออกมาและมีความสุขกับอาหารเช้าเพื่อสุขภาพแสนอร่อยได้ 

จนกว่าจะถึงคราวหน้า ขอให้สนุกกับการทำอาหารค่ะ <3 <3 <3 


* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *


What do you usually have for breakfast? For me, apart from fruity green smoothies and eggs, I usually go for overnight oatmeal. Overnight oatmeal breakfasts could be made a week in advance so you can just grab your oatmeal to go. It is easy and does not take more than 15 minutes to prepare. 


Now I have just the overnight oatmeal recipe that fits right into the Pumpkin Recipe Series. I would like to call this recipe "Pumpkin Overnight Oatmeal". This recipe yields just one serving so if you would like to prepare for the rest of your week, simply multiply the number of servings you want to the ingredients you need. Also this recipe only gives you 315 calories, but fills your stomach until lunch time. If you are ready, here are ingredients you need.


  • 35 g Oatmeal
  • 125 g Pumpkin Puree
  • 100 ml Soy Milk (or you can just use milk)
  • 40 g Dried Cranberries
  • 1 Teaspoon of Pumpkin Pie Spice
  • 1 Teaspoon of Vanilla Flavor



One you have everything, just mix everything together and store in a container in the fridge for a night or longer if you want. In the morning, just simply take out your spoon and enjoy your oatmeal. 

Until next time, stay full and stay happy. <3 <3 <3

Thursday, 17 October 2013

Recipe Talk: Soft Pumpkin Choc-Chip Oatmeal Cookies

สูตรที่สองในซีรีย์สูตรอาหารจากฟักทองก็คือ "คุกกี้ฟักทองกับช็อกชิพโอ๊ตมีล" ถ้าใครสนใจลองสูตรแรก (คัพเค้กฟักทอง) ก็ลองคลิ๊กเข้าไปอ่านดูได้ค่ะ 



สูตรคุกกี้นี้บัวปรับมาจากสูตร Chewy Pumpkin Oatmeal Cookies ของ Sally แห่งบล๊อก Sally's Baking Addiction ค่ะ กลับมาที่สูตรคุกกี้ของบัว ถ้าพร้อมแล้ว มาดูกันเลยค่ะว่าต้องใช้อะไรบ้าง

  • แป้งอเนกประสงค์ 225 กรัม
  • น้ำตาล 60 กรัม
  • น้ำตาลทรายแดง 120 กรัม 
  • โอ๊ตมีล 50 กรัม
  • ช็อกโกแลตชิพ 150 กรัม
  • แครนเบอร์รี่อบแห้ง 60 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
  • เครื่องเทศพายฟักทอง (Pumpkin Spice) 3 ช้อนชา 
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา
  • วานิลลาสกัด (Vanilla Extract) 2 ช้อนชา
  • ซอสแอปเปิ้ล 50 กรัม
  • ฟักทองบดละเอียด 250 กรัม
  • ไข่ 1 ฟอง
  • น้ำมันมะกอก 4 ช้อนโต๊ะ

เมื่อมีส่วนผสมพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยนะคะ 


  1. อุ่นเตาไว้ที่ 180 องศา
  2. เริ่มทำส่วนผสมแห้งโดยการผสมแป้ง น้ำตาล น้ำตาลทรายแดง ผงฟู โอ๊ตมีล เบกกิ้งโซดา เครื่องเทศพายฟักทอง และเกลือเข้าด้วยกัน
  3. ผสมซอสแอปเปิ้ล วานิลลาสกัด ฟักทองบดละเอียด ไข่และน้ำมันมะกอกเข้าด้วยกัน
  4. ผสมส่วนผสมทุกอันเข้าด้วยกันให้เข้ากันพอดี
  5. เตรียมถาดอบโดยนำกระดาษเคลือขี้ผึ้งวางลงบนถาด
  6. ใช้ช้อนตักคุกกี้โดว์วางลงบนถาด แบ่งให้เท่าๆกันให้ได้ 24 ชิ้น
  7. อบคุกกี้ประมาณ 20 นาที
  8. นำออกจากเตาอบและวางให้เย็น


การันตีเลยว่าสูตรคุกกี้นี้จะทำให้ห้องครัวของเพื่อนๆมีกลิ่นหอมของช็อกโกแลตและเครื่องเทศฟังทอง กลิ่นที่ทั้งหวานและอบอุ่น ลองทำคุกกี้สูตรนี้ดูนะคะ ถ้าลองแล้วมีคำแนะนำให้บัว ก็ทิ้งคอมเม้นไว้ที่ด้านล่างได้เลยค่ะ

จนกว่าจะถึงคราวหน้า ขอให้สนุกกับการทำอาหารค่ะ <3 <3 <3



* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *


Continuing the Pumpkin Recipe Series, the second recipe is called "Soft Pumpkin Choc-Chip Oatmeal Cookies". Check out the first recipe, Pumpkin Cupcakes with Cream Cheese Frosting, in this series by just clicking on the link. 






This recipe is my version of Chewy Pumpkin Oatmeal Cookies by Sally of Sally's Baking Addiction. Check out her blog for more cookie recipes. ... Back to my pumpkin choc-chip oatmeal cookies. If you are ready, here are things you need.

  • 225 g All Purpose Flour
  • 60 g Sugar
  • 120 g Brown Sugar
  • 50 g Oatmeal
  • 150 g Semi-Sweet Chocolate Chips
  • 60 g Dried Cranberries
  • 1 Teaspoon of Baking Powder
  • 1/2 Teaspoon of Baking Soda
  • 3 Teaspoons of Pumpkin Pie Spice
  • 1/8 Teaspoon of Salt
  • 2 Teaspoon of Vanilla Extract
  • 50 g Applesauce
  • 250 g Pumpkin Puree
  • 1 Egg
  • 4 Tablespoons of Olive Oil

Once you have gathered the ingredients, here are the steps.

  1. Preheat your oven to 180 Celsius.
  2. Dry mixture. Toss all purpose flour, sugar, brown sugar, oatmeal, baking powder, baking soda, pumpkin pie spice, salt, semi-sweet chocolate chips and dried cranberries together, and then set aside.
  3. Wet mixture. Combine applesauce, pumpkin puree, vanilla extract, egg and olive oil until smooth.
  4. Cookie dough. Mix dry mixture, wet mixture, semi-sweet chocolate chips and dried cranberries together.
  5. Line baking sheets (or trays) with parchment paper and scoop cookie dough on the prepared baking sheets. You can use a small ice-cream scoop or use a tablespoon. If you decide on using a tablespoon, there are about 2 tablespoons of dough per cookie.
  6. Bake the cookies for about 20 minutes.
  7. Cool on the rack and store in airtight containers.
The recipe makes about 24 cookies. If anyone who loves soft cookies, you will probably enjoy this recipe. Once baked, your kitchen will smell like chocolate and pumpkin spice. Amazingly sweet and warm at the same time. Give it a try and let me know your comments and suggestions on the comment box below.


Until next time, stay full and stay happy. <3 <3 <3

Wednesday, 16 October 2013

Recipe Talk: Pumpkin Cupcakes with Cream Cheese Frosting

เดือนตุลาคมเป็นเดือนที่หลายๆคนตั้งหน้าตั้งตารอวันฮาโลวีนและปาร์ตี้แสนสนุก แต่ที่มาพร้อมกับวันฮาโลวีนก็เห็นจะเป็นฟักทอง ฟักทองสามารถเป็นได้ทั้งของตกแต่งและอาหาร เพราะฉะนั้นในเดือนนี้บัวจะนำเมนูอาหารที่ทำมาจากฟังทองมาให้เพื่อนๆลองทำกันค่ะ เรามาดูเมนูแรกกันเลย ขอเรียกเมนูนี้ว่า "คัพเค้กฟักทอง" 


เมนูนี้บัวปรับสูตรมาจาก Pumpkin Cupcakes และ Cream Cheese Frosting ของ Laura Vitale เชฟคนนี้เป็นหนึ่งในเชฟที่บัวชอบ ถ้ามีเวลาลองไปดูบล็อก Laura in the Kitchen ของเธอดูนะคะ มีเมนูอาหารอิตาเลี่ยนอร่อยมากมายให้เพื่อนๆเลือกทำได้ เอาละ กลับมาเรื่องคัพเค้กฟักทองกัน ถ้าพร้อมแล้ว นี้คือสิ่งที่เพื่อนๆต้องการค่ะ

สำหรับคัพเค้ก
  • แป้งอเนกประสงค์ 180 กรัม
  • น้ำตาล 220 กรัม
  • ผงฟู 1 ช้อนชา
  • เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • เครื่องเทศพายฟักทอง (Pumpkin Spice) 3 ช้อนชา ... ลองไปที่ล่างสุดของสูตร คัพเค้กแครอทเจ ... จะมีวิธีผสมเครื่องเทศให้ค่ะ 
  • เกลือ 1/8 ช้อนชา
  • ซอสแอปเปิ้ล 150 กรัม
  • วานิลลาสกัด (Vanilla Extract) 1 ช้อนชา
  • ฟักทองบดละเอียด 220 กรัม ... ถ้าหาแบบกระป๋องไม่ได้หรืออยากจะทำเอง Laura Vitale มีวิธีทำ Pumpkin Puree ให้ค่ะ
  • น้ำมันมะกอก (หรือจะใช้น้ำมันพืชก็ได้ค่ะ) 3 ช้อนโต๊ะ

สำหรับฟรอสติ้ง
  • ครีมชีส 120 กรัม
  • เนยจืด 20 กรัม
  • นมถั่วเหลือง (หรือนมธรรมดาก็ได้ค่ะ) 20 มิลลิลิตรหรือประมาณ 1 & 1/5 ช้อนโต๊ะ
  • วานิลลาสกัด 1 ช้อนชา
  • น้ำตาลไอซิ่ง 180 กรัม

ถ้าเตรียมของพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยนะคะ

สำหรับคัพเค้ก
  1. อุ่นเตาไว้ที่ 180 องศา
  2. เริ่มผสมแป้ง น้ำตาล ผงฟู เบกกิ้งโซดา เครื่องเทศพายฟักทอง และเกลือเข้าด้วยกัน 
  3. ผสมซอสแอปเปิ้ล วานิลลาสกัด ฟักทองบดละเอียด และน้ำมันมะกอกเข้าด้วยกัน
  4. นำส่วนผสมแห้งและเปียกผสมกัน เอาแค่พอให้เข้ากันและเนียน ไม่ให้มีเป็นส่วนผสมที่จับกันเป็นก้อนอยู่
  5. ใช้ที่ตักไอศกรีมตักส่วนผสมคัพเค้กลงในถาดมัฟฟินแบบ 12 หลุม การใช้ที่ตักไอศกรีมจะทำให้เราสามารถแบ่งส่วนผสมได้เท่าๆกันค่ะ สูตรนี้จะทำคัพเค้กได้ 12 อันพอดี
  6. นำเข้าเตาอบ และอบประมาณ 20 นาที หรือจนกว่าที่ถ้าเราเอาไม้จิ้มฟันจิ้มไปตรงกลางคัพเค้กแล้วพอดึงออกไม่มีตัวส่วนผสมติดออกมาด้วยค่ะ

สำหรับฟรอสติ้ง ... บัวเป็นคนชอบฟรอสติ้งครีมชีสแบบเค็มนิดๆ บัวเลยลดน้ำตาลในสูตรลงค่ะ เพื่อนๆปรับความหวานและความข้นได้ตามต้องการโดยเพิ่มหรือลดน้ำตาลไอซิ่ง

  1. ก่อนจะป้ายฟรอสต้ิงลงบนคัพเค้ก เพื่อนๆต้องรอให้คัพเค้กเย็นเสียก่อนนะคะ 
  2. ระหว่างรอให้คัพเค้กเย็นก็ตีครีมชีส เนยจืด และวานิลลาสกัดให้เข้ากันและฟู
  3. เสร็จแล้วก็ผสมน้ำตาลไอซิ่งลงไป ตีให้เนียน
  4. วิธีการป้ายฟรอสติ้งบนคัพเค้กมีหลายแบบ แต่บัวใช้จุ่มหน้าคัพเค้กลงไป โดยการจิ้มหน้าคัพเค้กครั้งแรกลงไปและนำไปวางบนถาดเพื่อนำเข้าไปวางในตู้เย็นให้หน้าฟรอสติ้งแข็งนิดหน่อย ประมาณ  30 นาที
  5. หลังจาก 30 นาทีแล้วก็นำออกมาจุ่มลงในพรอสติ้งอีกครั้งและนำไปแช่เย็นประมาณ 1 ชั่วโมง
ถ้าใครอยากจะลดน้ำตาลก็ข้ามขั้นตอนการทำฟรอสติ้งไปเลยค่ะ ทานตัวคัพเค้กเปล่าๆก็อร่อย จะไว้เป็นอาหารเช้าหรือทานเป็นอาหารทานเล่นตอนบ่ายเพื่อเพิ่มพลังงานก็ดีค่ะ แต่สำหรับบัว บัวไว้ทานตอนกลางคืน ไว้เป็นรางวัลให้กับวันที่แย่ๆและวันที่เหนื่อยล้าค่ะ 

จนกว่าจะถึงคราวหน้า ขอให้สนุกกับการทำอาหารค่ะ 

* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * 

October has arrived and it is time for pumpkin recipes. The first pumpkin recipe I would like to present to you is "Pumpkin Cupcakes with Cream Cheese Frosting". 


I adapt this recipe from two recipes (Pumpkin Cupcakes and Cream Cheese Frosting) by Laura Vitale. She is one of my favorite chefs. Check her blog, Laura in the Kitchen, out if you are looking amazing and delicious Italian dishes. Anyway, if you are ready to bake these cupcakes, you will need the followings.


For Cupcakes:
  • 180 g All Purpose Flour
  • 220 g Sugar
  • 1 Teaspoon of Baking Powder
  • 1 Teaspoon of Baking Soda
  • 3 Teaspoon of Pumpkin Pie Spice ... If you cannot find the manufactured one, click here and the recipe on how to make it is at the end of the post. 
  • 1/8 Teaspoon of Salt
  • 150 g of Applesauce
  • 1 Teaspoon of Vanilla Extract  
  • 220 g Pumpkin Puree ... If you cannot find or do not want to use the canned pumpkin puree, you can make it yourself. Laura Vitale has a recipe on how to make Pumpkin Puree.
  • 3 Tablespoons of Olive Oil (Vegetable Oil is fine as well)
For Frosting:
  • 120 g Cream Cheese
  • 20 g Unsalted Butter
  • 20 ml Milk (Soy Milk is fine as well) ... around 1 & 1/5 Tablespoons
  • 1 Teaspoon of Vanilla Extract
  • 180 g Icing Sugar

Here are the steps you make these cupcakes.


For Cupcakes: 
  1. Preheat your oven to 180 Celsius.
  2. Dry mixture. Mix all purpose flour, sugar, baking powder, baking soda, pumpkin pie spice and salt together. 
  3. Wet mixture. Combine applesauce, vanilla extract, pumpkin puree and olive oil together and mix tell.
  4. Cupcake batter. Mix dry and wet mixtures together well. Make sure there are no lumps and crumbs. Also mix until the batter is smooth, but do not over combine them. 
  5. Use a medium size ice-cream scoop to divide the batter into 12 portions into the 12 hole muffin pan.
  6. Bake the cupcakes for 20 minutes or until the toothpick comes out clean.

For Frosting: ... Just a little note ... I like my cream cheese frosting to be a little salty so I do not put in as much icing sugar as the original recipe calls for. Feel free to adjust the sweetness and consistency of the frosting to your liking.
  1. Beat cream cheese, butter, milk and vanilla extract until the mixture become fluffy. 
  2. Add icing sugar and combine until smooth.

Frosting the Cupcakes ... There are many ways to frost the cupcakes, but since I always find the easy way. Here is how I do it.  

  1. Before you start frosting the cupcakes, you will need to let the cupcakes cool completely.    
  2. First drip. Just take the round part of the cupcakes and dip in the cream cheese frosting. Then set on the cooling rack to let the cupcakes with frosting cool in the fridge for about half an hour. 
  3. Then dip them for the second time and cool in the fridge for another hour. 

Have these cupcakes in the morning or as snack in the afternoon to boost your energy to get you through the day. Personally, I have one at midnight before I go to bed to reward myself on a bad day. A pumpkin lover should not miss this recipe.

Until next time, stay full and stay happy. 

Friday, 11 October 2013

Recipe Talk: Vegan Oatmeal Raisin Cookies

ถ้าเพื่อนๆเกิดอยากทานคุกกี้ระหว่างวันแต่ก็ยังอยู่ในช่วงถือศีลกินเจ จะทำอย่างไรดี? ก็ทำเองเลยสิค่ะ ไม่ต้องไปนั้งหาให้ปวกหัวว่าคุกกี้ที่อยากทานนั้นเป็นอาหารเจรึเปล่า บัวมีสูตร "คุ้กกี้โอ๊ตมีลเจ" มาให้ลองทำทานกันดู บัวดัดแปลงสูตรคุกกี้นี้มาจากสูตร Vegan Oatmeal Craisin Cookies โดย Cassey Ho ผู้ก่อตั้ง Blogilates 


สูตรนี้ทำได้ง่ายโดยใช้ส่วนผสมแค่ 8 อย่างและสามารถทำคุกกี้ออกมาได้ตั้ง 12 อัน พร้อมแล้วเรามาดูกันเลยว่าเพื่อนๆต้องใช้ส่วนผสมอะไรกันบ้าง
  • โอ๊ตมีล 100 กรัม
  • ลูกเกด 70 กรัม
  • น้ำตาลทราย 40 กรัม
  • แป้งอเนกประสงค์ 30 กรัม
  • เบกกิ้ง พาวเดอร์ 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา
  • น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ 
  • นมถั่วเหลือง 125 มิลลิลิตร 
เมื่อมีส่วนผสมพร้อมแล้ว วิธีทำก็มีดังต่อไปนี้
  1. อุ่นเตาอบไว้ที่ 180 องศา
  2. เริ่มทำคุกกี้โดว์ด้วยการนำส่วนผสมทุกอย่างคลุกเคล้าให้เข้ากัน 


  3. นำกระดาษเคลือบขี้ผึ้งวางไว้บนถาดอบขนม 
  4. ใช้ช้อนหรือมือแบ่งคุกกี้โดว์เป็นก้อนและวางคุกกี้โดว์แต่ละก้อนไว้บนกระดาษสำหรับอบขนมที่อยู่บนถาดอบขนม พยายามแบ่งให้ได้ประมาณ 12 ชิ้นเท่าๆกัน ถาดอบขนมของบัวอบได้ทีละ 6 ชิ้น บัวเลยแบ่งอบเป็น 2 ครั้งค่ะ
  5. พอวางคุกกี้โดว์แต่ละก้อนเสร็จก็อบคุกกี้นานประมาณ 20 นาที
  6. เสร็จแล้วนำออกจากเตาอบ วางให้เย็นก่อนเก็บเข้าภาชนะนะคะ
เสร็จแล้ว ง่ายไหมคะ บัวใช้เวลาน้อยกว่า 1 ชั่วโมงในการทำคุกกี้ทั้ง 12 ชิ้นค่ะ ลองทำคุกกี้เจเพื่อสุขภาพนี้ไปทานระหว่างวันหรือเพื่อเพิ่มพลังงาน ทานพร้อมกับชาหรือกาแฟสักถ้วย

จนกว่าจะถึงคราวหน้า ขอให้สนุกกับการทำอาหารค่ะ <3 <3 <3 

* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *

What to do when you crave cookies and it is still the Vegan Festival? You make some yourself. 


I have just a recipe for you. Why don't give this "Vegan Oatmeal Raisin Cookies" a go? This recipe is my take on Vegan Oatmeal Craisin Cookies by Cassey Ho of Blogilates. They are super easy to make and require just 8 simple ingredients to make 12 cookies. If you are ready, here are things you need.
  • 100 g Oatmeal
  • 70 g Raisins
  • 40 g Sugar
  • 30 g All Purpose Flour
  • 1 Teaspoon of Baking Powder
  • 1/4 Teaspoon of Salt
  • 1 Tablespoon of Coconut Oil 
  • 125 ml Soy Milk
Once you have everything, let's go over how to bake these cookies.
  1. Preheat your oven to 180 Celsius.
  2. Cookie dough. Mix all ingredients together just to have everything combine. 
  3. Prep your baking tray by lining parchment paper on top. 
  4. Use a tablespoon or your hands to divide the batter into 12 portion and place them on the parchment paper which is lined on your baking tray. My tray is small so I make 6 cookies each time. 
  5. Bake your cookies for 20 minutes. 
  6. Once done, leave to cool completely before putting into containers.
It took me less than an hour to prepare these cookies. Give this recipe a go so you have something healthy and vegan to snack on during the day to give yourself a little pleasure and energy. 

Until next time, stay full and stay happy. <3 <3 <3

Thursday, 10 October 2013

Recipe Talk: Vegan Ravioli

สวัสดีค่ะ ช่วงเทศกาลถือศีลกินเจปีนี้เป็นยังไงกันบ้างคะ วันนี้บัวมีสูตร "เกี๊ยวอิตาเลี่ยนเจ" ที่ทำได้ง่ายและมีส่วนผสมเพียงแค่ 5 อย่างเท่านั้นค่ะ มีส่วนผสมอะไรบ้าง เรามาลองดูกันเลยนะคะ

  • เห็ดหอม 250 กรัม
  • ผักชี (ใช้ทั้งราก ต้น และใบ) 100 กรัม
  • แป้งเกี๊ยวซ่า 400 กรัม
  • เกลือ 1/4 ช้อนชา  
  • พริกไทยดำป่น 1/2 ช้อนชา

ถ้าเพื่อนๆมีของพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยนะคะ

  1. การทำไส้เกี๊ยวนั้น ให้นำเห็ดหอม ผักชี เกลือ และพริกไทยมาปัั่นในเครื่องปั่นหรือเครื่องบดอาหาร หรือถ้่าใครชอบไส้แบบเคี้ยวได้ ก็หั่นเห็ดหอมให้เป็นลูกเต๋าเล็กๆ บดรากและต้นผักชีให้ละเอียดแล้วนำส่วนผสมไส้เกี๊ยวมาผสมกัน
  2. เมื่อทำไส้เกี๊ยวเสร็จแล้ว ก็ได้เวลาประกอบตัวเกี๊ยวค่ะ การทำเกี๊ยวนั้น เพื่อนๆต้องใช้แป้งเกี๊ยวซ่า 2 แผ่นด้วยกัน ให้นำไส้เกี๊ยวประมาณ 1/2 ช้อนโต๊ะวางลงตรงกลางแผ่นแรก หลังจากนั้นให้นำน้ำมาทาบริเวณรอบๆขอบ แล้วถึงจะนำแป้งอีกแผ่นมาวางทับประกบกัน ระวังอย่าให้มีฟองอากาศอยู่ระหว่างไส้หรือแผ่นเกี๊ยวค่ะ 


  3. เมื่อทำเกี๊ยวเสร็จแล้ว ก็ต้มน้ำร้อนในหมอใบใหญ่พอประมาณให้เดือด แล้วจึงใส่เกลือลงไปพอเล็กน้อย และตามด้วยเกี๊ยว เพื่อนๆจะเห็นเกี๊ยวลอยเมื่อสุกแล้ว ก็ช้อนออกและทานพร้อมกับซอสที่เลือกได้เลย

แนะนำให้ทานพร้อมกับซอสเพสโต้หรือซอสสปาเก็ตตี้ตอนยังอุ่น ถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบอาหารอิตาเลี่ยนหรือชอบเกี๊ยวเหมือนบัวแล้วละก็ ควรลองทำสูตรนี้ทานดูนะคะ 

จนกว่าจะถึงคราวหน้า ขอให้สนุกกับการทำอาหารค่ะ <3 <3 <3 


* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *

To continue the celebration of 2013 Vegan Festival, I have come up with a recipe that uses only 5 simple ingredients you could find in any super market. I would like to call this dish "Vegan Ravioli" or shiitake mushroom and coriander ravioli. If you are ready, here are things you need.


  • 250 g Shiitake Mushrooms
  • 100 g Coriander (use both leaves and roots)
  • 400 g Gyoza wrappers
  • 1/4 Teaspoon of Salt
  • 1/2 Teaspoon of Ground Black Pepper

Once you have everything, let's get started. Here are steps of how to make your own ravioli.

  1. Mushroom stuffing. Get a food processor or a blender, add shiitake mushrooms, corianders, salt and ground black pepper. Then blend away.
  2. Assemble time! Once you have the mushroom stuffing, take out your gyoza wrappers. To make one ravioli, you need 2 wrappers and 1/2 tablespoon of mushroom stuffing. On a gyoza wrapper, place a 1/2 tablespoon of mushroom stuffing in the centre, brush all around edges with water and then place another wrapper on top. Seal off your ravioli and make sure there is no air bubble inside.
  3. To cook your ravioli, in a large pot, bring water to boil, sprinkle some salt and add your ravioli. They will float once they are cooked.

Top your ravioli with pesto or just simple tomato sauce, and you are good for a filling meal. If you love ravioli like me, you should give this a try. Let me know in the comment below how you like the recipe and how I can improve it.

Until next time, stay full and stay happy. <3 <3 <3

Tuesday, 8 October 2013

Recipe Talk: Vegan Carrot Cupcakes

เพื่อเป็นการฉลองการถือศิลกินเจปีนี้ บัวขอนำเสนอ "คัพเค้กแครอทเจ" ที่เพื่อนๆที่ทานเจสามารถทำทานได้เป็นอาหารเช้า ของหวาน หรืออาหารว่างได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิด เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในสูตรนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มาจากพืชทั้งหมด 



สูตรที่บัวนำเสนอนี้ได้ถูกปรับปรุงมาจากสองสูตรด้วยกัน (Super Moist Vegan Carrot Cake Recipe by Jolinda Hackett และ Carrot Cake Bars Recipe by Laura Vitale) สิ่งที่เพื่อนๆต้องการมีดังนี้


  • แป้งอเนกประสงค์ 3 ถ้วยตวง (ประมาณ 400 กรัม)
  • น้ำตาล 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 250 กรัม)
  • น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วยตวง (ประมาณ 100 กรัม)
  • ซอสแอปเปิ้ล (ที่ใช้เป็นพายแอปเปิ้ล) 1 ถ้วยตวง
  • น้ำมันพืช 1/2 ถ้วยตวง
  • แครอทเส้นหรือบดหยาบ 4 ถ้วยตวง (ประมาณ 500 กรัม)
  • ผงฟู 2 ช้อนชา
  • เบคกิ้งโซดา 1 ช้อนชา
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • อบเชยป่น 2 ช้อนชา
  • เครื่องเทศพายฟักทอง (Pumpkin Pie Spice) 4 ช้อนชา ถ้าหาซื้อแบบสำเร็จไม่ได้ ให้ลองทำตามคลิปด้านล่างของ Laura Vitale ค่ะ
  • วานิลลาสกัด (Vanilla Extract) 1 ช้อนชา
  • ลูกเกด 200 กรัม
  • ถั่วพีแคนบดหยาบ 150 กรัม
  • นมถั่วเหลือง 1 ถ้วยตวง (ประมาณ 250 มิลลิลิตร)
  • สเปรย์น้ำมันปรุงอาหาร




เมื่อเตรียมของพร้อมแล้ว เรามาเริ่มกันเลยนะคะ

  1. เริ่มอุ่นเตาอบไว้ที่ 180 องศา
  2. นำแป้ง, น้ำตาล, น้ำตาลทรายแดง, ผงฟู, เบคกิ้งโซดา, เกลือ, อบเชยป่น และเครื่องเทศพายฟังทองมาคลุกเข้าด้วยกันให้เป็น "ส่วนผสมแห้ง"
  3. นำซอสแอปเปิ้ล, น้ำมันพืช, วานิลลาสกัด และนมถั่วเหลืองมาผสมกันให้เป็น "ส่วนผสมเปียก"
  4. ในถ้วยใบใหญ่ นำแครอทบดหยาบ, ลูกเกด, ถั่วพีแคนบดหยาบ และส่วนผสมแห้ง 1 ถ้วยตวงคลุกผสมกัน ที่ต้องแบบนี้ก็เพื่อไม่ให้แครอท ลูกเกด และถั่วพีแคนจมลงไปที่ก้นคัพเค้กระหว่างการอบ
  5. เมื่อเสร็จแล้ว ให้นำส่วยผสมแห้ง, ส่วนผสมเปียก, แครอท, ลูกเกด และถั่วพีแคนมาผสมกัน บัวขอเรียกส่วนผสมนี้ว่า "เค้กเหลว" เอาพอให้ทุกอย่างเข้ากัน ถ้าเราตีส่วนผสมให้เข้ากันนานจนเกินไปจะทำให้เมื่อคัพเค้กแข็งและกระด้างได้
  6. สเปรย์น้ำมันปรุงอาหารลงในหลุมถาดมัฟฟิน
  7. ใช้ที่ตักไอศกรีมตักเค้กเหลวลงในแต่ละหลุมของถาดมัฟฟินให้เท่าๆกัน การใช้ที่ตักไอศกรีมจะช่วยให้เพื่อนๆแบ่งเค้กเหลวได้อย่างเท่าๆกัน ตามสูตรนี้แล้ว จะสามารถแบ่งคัพเค้กออกมาได้ 20 ชิ้นค่ะ
  8. อบคัพเค้กประมาณ 30 นาทีหรือจนกว่าที่เมื่อไม้จิ่มฟันที่จิ้มลงไปตรงกลางคัพเค้กจะดึงออกมาสะอาด

คัพเค้กแครอทเจสูตรนี้ไม่หวานมากเหมาะกับเทศกาลนี้ และเมื่อทิ้งไว้ให้เย็น คัพเค้กก็ยังคงนุ่มและไม่กระด้าง แนะนำให้ทานตอนออกมาจากเตาใหม่ๆ พร้อมกับนมถั่วเหลืออุ่นๆ อร่อยไม่น้อยเลย ถ้ากรณีที่เพื่อนๆอยากจะทำหน้าคัพเค้ก ก็สามารถทำได้ เพียงแค่ปล่อยให้คัพเค้กเย็นก่อนแล้วค่อยแต่งหน้า แต่สำหรับบัว ขอแค่ตัวคัพเค้กก็พอค่ะ 

จนกว่าจะคราวหน้า ขอให้สนุกกับการทำอาหารนะคะ <3 < 3 <3

* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *

To celebrate the 2013 Vegan Festival in Thailand, I have come up with Vegan Carrot Cupcakes... a breakfast/dessert/snack recipe using dairy-free and egg-free ingredients.



My recipe has been created based on Super Moist Vegan Carrot Cake Recipe by Jolinda Hackett and Carrot Cake Bars Recipe by Laura Vitale. My cupcakes came out not too sweet and moist even after they are completely cooled. If you are interested, here are what you need.

  • 3 Cups of All Purpose Flour (400 g)
  • 1 Cup of Sugar (250 g)
  • 1/2 Cup of Brown Sugar (100 g)
  • 1 Cup of Applesauce 
  • 1/2 Cup of Vegetable Oil
  • 4 Cups of Shredded Carrots (500 g)
  • 2 Teaspoons of Baking Powder
  • 1 Teaspoon of Baking Soda
  • 1/2 Teaspoon of Salt
  • 2 Teaspoons of Ground Cinnamon
  • 4 Teaspoons of Pumpkin Pie Spice ... if you would like to make your own, click on the video below of Laura Vitale. She gives a very detailed instruction on how to.
  • 1 Teaspoon of Vanilla Extract
  • 200 g of Raisins
  • 150 g of Chopped Pecans
  • 1 Cup of Soy Milk
  • Cooking Spray

Now that you have everything. Let's get started.

  1. Preheat your oven to 180 Celsius. 
  2. Dry mixture. Mix together flour, sugar, brown sugar, baking powder, baking soda, salt, ground cinnamon and pumpkin pie spice. Set aside.
  3. Wet mixture. Mix together applesauce, vegetable oil, vanilla extract and soy milk. 
  4. In another bowl, add the shredded carrots, raisins, chopped pecans and one cup of the dry mixture together and toss until carrots, raisins and pecans are coated with the dry mixture. 
  5. Cake batter. After that, mix wet mixture, dry mixture and shredded carrots, raisins and chopped pecans together well.   
  6. Spray your muffin pan with cooking spray.
  7. Use a medium ice-cream scoop to divide the cake batter evenly in each muffin hole. With this batter, you should be able to divide the batter in 20 portions.  
  8. Bake your batter for 30 minutes or until a toothpick comes out clean.

It is best to have these cupcakes while warm with a cup of warm soy milk. It is also optional if you would like to have icing or frosting, but for me, I would like to stick with just plain vegan carrot cupcakes for now. Any suggestion, please let me know in the comment below. 

Until next time, stay full and stay happy. <3 <3 <3

* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *

Laura Vitale's Quick Tip: How to Make Pumpkin Pie Spice


What you need are...

  • 1 Tablespoon of Ground Cinnamon
  • 1 & 1/2 Teaspoons of Ground Ginger
  • 1/2 Teaspoon of Nutmeg
  • 1/2 Teaspoon of Ground Cloves
  • 1/4 Teaspoon of Ground Allspice
  • 1/8 Teaspoon of Salt

Then combine all together and shake well. 

Thursday, 3 October 2013

Italian Time @ La Tavola & Wine Bar

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาบัวมีโอกาสไปร้าน La Tavola & Wine Bar ที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของโรงแรม เรอเนสซองซ์ กรุงเทพ ราชประสงค์ ร้านอยู่ตรงกันข้ามกับร้านอาหารจีน เฝยยา (Fei Ya) ร้านอาหารจีนขอไว้รีวิวคราวหน้านะคะ คราวนี้ทางโรงแรมได้เชิญบัวไปทานอาหารเพื่อรีวิวให้เพื่อนๆได้อ่านกัน นั้นหมายความว่ารีวิวคราวนี้เป็น Sponsored Review ค่ะ พร้อมแล้วเริ่มกันเลยนะคะ

เมื่อเพื่อนๆเดินมาถึงหน้าร้าน สิ่งที่สะดุดตาเห็นจะเป็นตู้โชว์ไวน์ที่ทำมาจากกระจกใส แสงจากไฟที่ตกกระทบชั้นวางไวน์นั้นทำให้หน้าร้านดูสวยไม่ใช่เล่นเลย การตบแต่งโดยรวมก็จะเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ แสงไฟแบบนวล และก็สีเบจ ทั้งสามสิ่งนี้ทำให้ร้านดูทันสมัย คลาสสิค และหรูหราในเวลาเดียวกัน แต่สิ่งที่ต้องตาต้องใจบัวเห็นจะต้องเป็นเพดานที่มีรูปร่างเหมือนดอกไม้ใหญ่หลายดอกอยู่ด้วยกัน อันนี้ก็คิดเอาเองว่าเป็นดอกไม้ ใครจะมองเป็นอย่างอื่นก็ไม่ว่ากันค่ะ 


พอเดินเข้าไปในร้าน พนักงานต้อนรับจะพาเพื่อนๆไปที่โต๊ะ ถ้าได้โต๊ะที่มีโซฟายาว ก็ขอเตือนไว้ก่อนว่าอาจจะนั้งลำบากสักหน่อยสำหรับคนตัวไม่สูงมากนักเหมือนบัว (บัวสูงประมาณ 160 ซม.ค่ะ) ถ้านั้งไม่สะดวกก็ลองเปลี่ยนไปนั้งเก้าอี้ธรรมดาแทนค่ะ 

ระหว่างรออาหารที่สั่ง พนักงานจะเสริฟถาดขนมปังทานรองท้อง ทานแค่สักชิ้นสองชิ้นพอหายหิวนะคะ อาหารที่นี้จานก็ใหญ่พอสมควร ไป 2 คน ทานสัก 3 จานนี้ก็คงจะอิ่มพอควรเลยค่ะ อาหารที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ก็มีอาหารคาว 4 จาน ของหวาน 1 จาน และเครื่องดื่มฟรุตพั้นช์



รีวิวทีละจานเลยละกันนะคะเริ่มจานแรกคือ สลัดเป็ดกรอบ (Crispy Duck Salad) ใครที่ชอบเป็ดแบบหนังกรอบแต่เนื้อนุ่ม เค็มกำลังบอกดี คงชอบสลัดจานนี้ ซอสบัลซามิกที่มีรสชาติไม่เปรี้ยวเกินไป ทำให้สลัดจานนี้โดดเด่นด้วยรสหวาน เปรี้ยว และเค็มที่กำลังพอดี 



ซี่โครงหมูย่างสไตล์บาบีคิว (Grilled Pork Ribs) มีเนื้อหมูรสละมุนและนุ่มลิ้น เนื้อนั้นนุ่มมากจนไม่ต้องใช้มีดตัดเลย เพียงแค่ใช้ส้อมเขี่ยเบาๆเนื้อก็หลุดออกมากจากกระดูดอย่างง่ายดาย 



จานต่อไปขออนุญาตเรียกชื่อทับศัพท์เลยนะคะ ไม่รู้จริงๆว่าจะแปลออกมาว่าอย่างไร จานนี้มีชื่อว่า Linguini Aglio Olio ใครชื่นชอบพาสต้าน่าจะชอบจานนี้ เส้นลิงกวีนี่นั้นเชฟต้มได้สุกพอดี แบบที่ฝรั่งนิยมเรียกว่า อัน เดนเต้ (al dente) รสชาติทั้งจานกลมกล่อมและเข้มข้นทีเดียว 



ปลาหิมะอบ... หนังปลาแสนกรอบกับเนื้อปลาที่ยังฉ่ำและหวาน ปลาสุกได้กำลังดีและไม่แห้งจนเกินไป ซอสที่เสริฟมาพร้อมกันในจานนี้มีรสเค็มและเปรี้ยวอ่อนพอให้ทานปลาได้ไม่เลี่ยน เป็นสูตรที่น่าสนใจทีเดียว จานนี้พอทานคนเดียวได้ค่ะ 



จานสุดท้ายเป็นของหวานที่ผู้ชื่นชอบช็อกโกแลตเห็นแล้วคงมีความสุข ช็อกโกแลต ฟองดองต์ (Chocolate Fondant) ที่นี้ก็ใช้ได้ ไม่ได้อร่อยจนแตกต่างจากที่อื่นมากนัก แต่ก็นับว่าอร่อยใช้ได้ค่ะ อุณหภูมิที่อุ่นพอเหมาะของตัวเค้ก ก็เข้ากันได้ดีกับไอศกรีมโฮมเมด รสวานิลา



ราคาโดยรวมของ La Tavola จะออกไปทางสูงสักนิด แต่ถ้าคำนึงถึงสิ่งที่มาพร้อมกับราคา เช่น การบริการที่ดีมาก และวัตถุดิบที่สดและมีคุณภาพดี สิ่งที่จ่ายไปก็น่าจะดูคุ้มค่า ลองให้ La Tavola เป็นอีกตัวเลือกของเพื่อนๆในครั้งหน้าที่มองหาที่ทานอาหารมื้อพิเศษและโรแมนติกกับคนสำคัญ

จนกว่าจะครั้งหน้า stay full and stay happy <3 <3 <3


* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *


La Tavola & Wine Bar is located on the 3rd floor of Renaissance Bangkok Ratchaprasong and opposite the famous Chinese restaurant, Fei Ya. Upon arrival, you will see quite an attractive glassy looking wine racks/shelves. The overall decoration is very modern, classy and glamorous at the same time with the use of brown, beige and soft lighting. Personally, I find the ceiling quite intriguing and beautiful. I would like to think the figures/shapes on the ceilings are enormous flowers. 

If you are shown to a table with a sofa, please keep in mind that the sofa might be a little bit too low for the table... at least for me, a 5' 3" person. I switched to a chair instead and had no problem. Otherwise, the tables and seats are quite comfortable. The soft lighting and the use of candles make the dining experience more romantic. The background music complements the food have very well... not too heavy and not too slow. Just the right pace that you feel at ease and enjoy your food. 


For the dishes we had, they were all delicious. Let's start off with the Crispy Duck Salad was absolutely delightful and fresh. The duck confit was nicely cooked, the vegetables were very fresh and the balsamic sauce gave this smooth tanginess. Grilled Pork Ribs would take you out of this world. The marinated pork meat was so soft and tender. It just fell right off the bones. A must try. My personal favorite is Linguini Aglio Olio. Linguini was the perfect al dente. The whole dish was simply a delicious comfort food after a long day. Roasted Snow Fish was done right. The crispy and salty skin and the soft and juicy snow fish meat went so well with a little bit sour and salty sauce. It was very nice. Last but not least, Chocolate Fondant served with homemade vanilla icecream. Those who are chocolate lovers would find this dessert dish very enjoyable. After all, a little bit of chocolate a day keeps the doctor away... or is that something else? 



The price is a little bit over the high side. However, with the service and quality of food you are getting, it is worth the price. It is never harmful to spend a little after a long week of hard work. Good food always fills your soul. Splurge a little to reward yourself. La Tavola is a good choice for the next time you are looking for a quiet place for a special romantic dinner. 

Until next time, stay full and stay happy. <3 <3 <3