Wednesday, 2 October 2013

Romantic Dinner @ In The Mood for Love ONE

ใครที่ชื่นชอบซูชิโรลแบบแฟนซีก็น่าจะชื่นชอบร้าน In the Mood for Love ตามจริงแล้วร้านนี้มีถึง 2 สาขาด้วยกัน ที่สุขุมวิทซอย 36 และเอกมัยซอย 1 คราวนี้บัวได้มีโอกาสไปร้านที่เอกมัยซอย 1 ร้านไปง่าย มีที่จอดรถถ้าเพื่อนๆจะขับไปเอง แต่ถ้าใครไปด้วย BTS อาจจะต้องนั้งแท็กซี่หรือมอเตอร์ไซค์เข้าไป เพราะถ้าเดินเข้าไปก็เกือบจะกลางซอยเอกมัยนู้น อาจจะอาการเหงื่อตกกันก่อนได้ค่ะ อ้อ อีกเรื่อง บัวแนะนำว่าถ้าจะไป จองโต๊ะไว้หน่อยก็ดีค่ะ ร้านนี้จะแน่นมากช่วง Weekends


ที่ชอบมากนอกจากอาหารร้าน In the Mood for Love แล้วคือการตกแต่งร้าน ทำให้บัวรู้สึกเหมือนกลับไปเซี่ยงไฮ้ยุคประมาณช่วง 1960s สีหลักที่สามารถเห็นได้ชัดคือน้ำเงินและน้ำตาลแดง ทั้งสองสีตัดกันได้อย่างลงตัว ภาพวาดลายดอกไม้ที่ผู้วาดบรรจงวาดอย่างประณีตบนผนังสีน้ำเงินช่างดูงดงามและอ่อนหวาน แต่ที่ดึงดูดตามากที่สุดเห็นจะเป็นโคมไฟระย้าที่มีกรงนกไม้เป็นจุดเด่น โคมไฟนี้ทำให้ร้านดูแตกต่างและมีเสน่ห์ขึ้นอีก ลองสั่งเครื่องดื่มหรือค็อกเทลมาสักแก้ว นั้งเก๋ๆดื่มด่ำกับบรรยากาศ ไม่เลวเลยนะคะ 

ถ้าเพื่อนๆเป็นคนชอบทานซูชิโรลแฟนซีแล้วละก็ ที่นี้ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน มีหลากหลายให้เลือกในเมนู ที่เป็นโรลซิกเนเจอร์ของทางร้านก็จะเป็น Sweet 16, Guilty but Happy, Happy To-get-her และก็ Caterpillar แต่ถ้าใครอยากได้โรลแบบไม่มีข้าว ทางร้านก็มีเมนูชื่อ 175 Degree ไว้รองรับ อันนี้อร่อยและก็ทำให้รู้สึกผิดน้อยลงนิดนึงค่ะ ส่วนใครที่อยากทานโรลแบบหรูๆหน่อย ก็ลองเลือกสั่ง Forbidden F ที่มีส่วนผสมของตับห่านและซอสมะม่วง อันนี้บัวชอบ อร่อยและไม่เลี่ยนค่ะ 

Left: Sweet 16 & Right: Caterpillar

Left: Guilty but Happy & Right: Happy To-get-her

Left: 175 Degree & Right: Forbidden F

ไม่ใช่แค่ซูชิโรลแฟนซีเท่านั้นที่อร่อย อาหารอย่างอื่น เช่น สลัดซาซิมิ และสเต็กเนื้อวัวก็อร่อยมากไม่แพ้กัน สิ่งที่บัวชอบที่นี้คือเวลาบัวสั่งสเต็กแบบ medium rare ไป ทางร้านก็เสริฟมาให้แบบที่บัวขอ หายากมากในเมืองไทย เพราะบางทีขอไปแบบนึง จะได้กลับมาเป็นอีกแบบนึงค่ะ 

Left: Beef Steal & Right: Sashimi Salad

พอหมดของคาวก็ถึงคราวของหวานกันบ้าง เนื่องจากว่าจำนวนอาหารคาวที่บัวและเพื่อนๆได้ทานไปอย่างมากมายทำให้สั่งของหวานได้เพียงอย่างเดียว ที่สั่งไปคือ Banana Fritters ชอบมากๆจานนี้ เหมือนปอเปี๊ยะของกล้วยนิ่มๆอุ่นๆไว้ข้างใน ทานพร้อมกับไอศครีมเย็นๆ อร่อยไม่อยากแบ่งใครเลย 


ตบท้ายมื้ออาหารลองสั่งกาแฟร้อนมาสักแก้ว ดื่มไปคุยกับเพื่อนๆหรือคนรักไป นั้งแฮงเอาท์เล่นไปก่อน รอรถหายติดแล้วค่อยกลับบ้าน



สรุปเรื่องราคาและความคุ้มค่า สำหรับบัว การได้ทานอาหารอร่อยในสถานที่ที่มีบรรยากาศดีกับเพื่อนๆที่รู้ใจ มันคุ้มค่าแล้วกับสิ่งที่ได้จ่ายไป อาหารก็คุณภาพดีและมีรสชาติอร่อย บรรยากาศก็ดีมาก เหมือนหลุดไปอยู่ในหนังยุคเก่า แกล้งเป็นนางเอกได้สบายๆ หาเพื่อนสักคนสองคนที่รู้ใจและจับมือกันไปนั้งชิลพร้อมทานอาหารอร่อยกันเลยค่ะ 

จนกว่าจะถึงคราวหน้า stay full and stay happy <3 <3 <3

* --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- * --- *

In the Mood for Love ONE is located at Ekkamai Soi 1 easily accessed by car. If you are travelling by BTS, simply get off at Ekkamai station and take a taxi or a motorbike to the restaurant. I highly recommend making a reservation in advance. The place is packed, especially on the weekends.


Just like the movie, In the Mood for Love, the sushi bar is decorated in the 1960s Chinese style with dark blue walls, reddish brown Chinese furniture, and beautiful chandelier with wooden bird cages. I just fell in love with the decoration. Parts of the blue walls are painted beautifully with flowers. Every little touch adds to the overall romanticness of this charming restaurant. Once you are there, you feel like you are trapped in the 1960s. Order a cocktail of your choice and just chill. 

If you are a big fancy roll fan, then you would totally love the wide selection on the menu. Ranging from the no rice sushi roll, 175 Degree, to tempura and mayo rolls, Guilty but Happy. They are delightful to taste. Personally, I love 175 Degree, which is spicy tuna, avocado, cream cheese and tempura roll without rice, as eating it makes me feel a little bit less guilty. There are signature rolls that you should try like Sweet 16, Guilty-but-Happy and Caterpillar. Forbidden F, roll with foie gras and prune with mango puree, provides you with this fancy feel to the eating adventure. A great fusion I would say. Happy To-get-her, which is Hokkaido scallops and tobikko topped with spicy crab meat, might be a cute name but it comes with a full flavored taste. 

Not only rolls that are delicious, other items on the menu like Sashimi Salad and Beef Steak are as wonderful. I really like how I got my medium rare steak when I ordered for one. Lately, I have been very lucky with steaks. Give other dishes a go. 

Once done with the food, it is, of course, time for desserts. Considering the amount of food my friends and I had during the course of three hours, we were quite full. The only dessert we ordered was Banana Fritters. They are beyond deliciousness. I am not a big fan of Banana Fritters and I love this one. That means something right?

To end this meal, give yourself a cup of hot coffee and hang out at the restaurant for a bit until the super congested Bangkok traffic is over.  

I would say that the overall price is on the high end, but it is definitely worth the whole food experience you are going to get. The ambiance is very nice and unique. The food is very delicious. All you need now is someone or a group of friends to share this dining experience with. 

Until next time, stay full and stay happy. <3 <3 <3

No comments:

Post a Comment